เลาตาโร่ มาร์ติเนซ

ตำนานของงูใหญ่ ผู้พิชิตโลก การเดินทางสู่ความฝันของ เลาตาโร มาร์ติเนซ

“คุณเตรียมกระเป๋าไว้เรียบร้อยแล้วหรือยัง?”ทุกครั้งที่พวกเขาพบกัน ลิโอเนล เมสซี (Lionel Messi) มักจะล้อเล่นกับ เลาตาโร มาร์ติเนซ (Lautaro Martinez) ถามว่าเพื่อนร่วมทีมชาติ อาร์เจนตินา (Argentina) จะย้ายมาร่วมทีม บาร์เซโลนา (Barcelona) กับเขาหรือไม่ ช่วงต้นปี 2020 บาร์ซา กำลังมองหาผู้เล่นมาแทนที่ หลุยส์ ซัวเรซ (Luis Suarez) โดยมี มาร์ติเนซ เป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งสำหรับฤดูกาลถัดไป เมสซี มีบทบาทสำคัญในปฏิบัติการดึงตัวกองหน้าของ อินเตอร์ มิลาน (Inter Milan) มายัง คัมป์ นู (Camp Nou) ในบางช่วงเวลา ดูเหมือนว่าดีลนี้ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์ แต่แล้วการระบาดของโควิด-19 ก็ทำให้แผนการทั้งหมดล้มเหลว มาร์ติเนซ ไม่ได้ย้ายออกจาก ซาน ซีโร (San Siro) และหลังจากผ่านไป 5 ปี เขาได้ทำให้ อินเตอร์ กลายเป็นทีมของเขาอย่างแท้จริง – ยิงได้อย่างน้อย 20 ประตูในแต่ละฤดูกาลตลอด 4 ฤดูกาลที่ผ่านมา และทำลายสถิติต่างๆ มากมาย ปัจจุบันเขาเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของ เนรัซซูรี่ (Nerazzurri) ใน แชมเปี้ยนส์ ลีก (Champions League) ด้วย 18 ประตู เป็นผู้เล่นคนแรกที่ทำประตูใน 5 เกมติดต่อกันให้กับทีมในทัวร์นาเมนต์นี้ และปัจจุบันเขาทำประตูห่างจากการเทียบเคียงสถิติของ เอร์นัน เครสโป (Hernan Crespo) (9 ประตูในฤดูกาล 2002-03) ในฐานะดาวซัลโวสูงสุดของสโมสรในหนึ่งฤดูกาลของการแข่งขันเพียงประตูเดียว สิ่งเหล่านี้เพียงพอที่จะตอกย้ำตำแหน่งของ เลาตาโร ในหมู่ตำนานของ อินเตอร์ แต่นักเตะวัย 27 ปีผู้นี้กำลังมุ่งมั่นที่จะทำมากกว่านั้นเมื่อเขาเดินทางไปยัง คัมป์ นู ในวันพุธเพื่อเผชิญหน้ากับ บาร์เซโลนา ในเกมเลกแรกของรอบรองชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก เขาไม่เพียงแต่ต้องการคว้าถ้วยรางวัลใหญ่เพียงใบเดียวที่ยังขาดอยู่ sbobet ผลบอลสด แต่ยังต้องการพิสูจน์ว่าเขาสมควรได้รับการยอมรับมากกว่าที่ได้รับจนถึงตอนนี้ในอาชีพของเขา “บางครั้ง ผมรู้สึกว่าถูกประเมินต่ำเกินไป ใช่” เขายอมรับกับหนังสือพิมพ์อิตาลี คอร์ริเอเร เดลล่า เซรา (Corriere della Sera) หลังจากจบอันดับที่ 7 ในรางวัล บัลลงดอร์ (Ballon d’Or) ปี 2024

 

ไม่ใช่เพียงแค่ตัว มาร์ติเนซ ที่คิดว่าตัวเขานั้นถูกประเมิณค่าจนต่ำเกินไป

 

คนที่รู้จัก มาร์ติเนซ ตั้งแต่ก้าวแรกในฟุตบอล อาร์เจนไตน์ กับ ลินิเยร์ส (Liniers) และ ราซิ่ง (Racing) ต่างก็มีความคิดเห็นเดียวกัน “ถ้า เลาตาโร ทำสิ่งเดียวกันให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (Manchester United) หรือ ท็อตแน่ม (Tottenham) เขาจะถูกพูดถึงมากกว่านี้ เพราะสุดท้ายแล้ว มันคือ พรีเมียร์ลีก (Premier League)” ดิเอโก้ อูเอร์ตา (Diego Huerta) อดีตแมวมองของ ราซิ่ง กล่าวกับ บีบีซี สปอร์ต (BBC Sport) “ดังนั้นผมไม่คิดว่าเป็นเพราะตัว เลาตาโร เอง – แต่เป็นเพราะเขาเล่นให้กับ อินเตอร์”

“พวกเขาเคยเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก (พบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City)) ในปี 2023 โดยมีเขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นโดดเด่น แต่เขาก็ยังไม่ได้รับความสนใจเท่ากับคนอื่นๆ สิ่งที่เขาทำ ตัวอย่างเช่น ในโคปา อเมริกา (Copa América) ปีที่แล้ว (เป็นดาวซัลโว) นั้นน่าทึ่งมาก” แล้วอะไรที่ยังขาดอยู่? มาร์คุส ทูราม (Marcus Thuram) คู่หูในแดนหน้าของเขาเสนอแนะว่า มาร์ติเนซ ควร “ยิ้มให้มากกว่านี้” หากนั่นคือปัญหา การนำ อินเตอร์ คว้าแชมป์คงจะช่วยให้เขายิ้มได้แน่นอน

 

จุดเริ่มต้นที่ อาร์เจนตินา ช่วยเสริมรากฐานของดาวเตะระดับโลก

 

เส้นทางสู่ความยิ่งใหญ่ของ เลาตาโร มาร์ติเนซ เริ่มต้นในเมืองเล็กๆ ชื่อ บาเอีย บลันกา (Bahía Blanca) ทางตอนใต้ของ อาร์เจนตินา ที่ซึ่งเขาเริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุยังน้อย ด้วยพรสวรรค์ที่เห็นได้ชัดตั้งแต่วัยเยาว์ เขาได้เข้าร่วมทีมเยาวชนของ ลินิเยร์ส ก่อนที่จะถูกคว้าตัวไปร่วมทีม ราซิ่ง คลับ (Racing Club) หนึ่งในสโมสรใหญ่ของ อาร์เจนตินา ที่ ราซิ่ง คลับ เลาตาโร แสดงให้เห็นถึงความสามารถอันยอดเยี่ยมของเขา ยิงไป 27 ประตูจาก 60 นัดในช่วงเวลาเพียง 2 ฤดูกาลเต็ม สร้างความประทับใจให้กับแมวมองทั่วยุโรป โดยเฉพาะ อินเตอร์ มิลาน ที่เฝ้าติดตามเขามานาน “เลาตาโร มีคุณสมบัติพิเศษที่หาได้ยาก” อูเอร์ตา กล่าว “เขามีความแข็งแกร่งทางร่างกาย จังหวะการเคลื่อนไหวในเขตโทษที่ยอดเยี่ยม และสัญชาตญาณการทำประตูระดับสูง เขาเป็นกองหน้าที่สมบูรณ์แบบสำหรับฟุตบอลยุโรปสมัยใหม่”

การก้าวสู่ยุโรป – การพิสูจน์ตัวเองที่ อินเตอร์ มิลาน ในปี 2018 อินเตอร์ มิลาน ตัดสินใจทุ่มเงิน 25 ล้านยูโรเพื่อดึงตัว เลาตาโร มาร่วมทีม ในช่วงแรก sbobet ผลบอลสด เขาต้องแข่งขันกับ เมาโร อีคาร์ดี้ (Mauro Icardi) และ โรเมลู ลูกากู (Romelu Lukaku) แต่ด้วยความมุ่งมั่นและความสามารถ เขาค่อยๆ สร้างตำแหน่งของตัวเองในทีมหลัก ภายใต้การคุมทีมของ อันโตนิโอ คอนเต้ (Antonio Conte) และต่อมาคือ ซิโมเน่ อินซากี (Simone Inzaghi) เลาตาโร พัฒนาเป็นหนึ่งในกองหน้าที่สมบูรณ์แบบที่สุดในโลก เขาไม่เพียงแต่ทำประตูได้อย่างสม่ำเสมอ แต่ยังทำงานหนักเพื่อทีม สร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีม และเพิ่มแรงกดดันให้กับฝ่ายตรงข้าม “ผมมาที่นี่เพื่อที่จะเป็นแชมเปี้ยน และเพื่อทำให้ อินเตอร์ กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง” มาร์ติเนซ กล่าวหลังย้ายมา “นี่คือบ้านของผม และผมจะทำทุกอย่างเพื่อเขียนประวัติศาสตร์ที่นี่” เลาตาโร รักษาคำพูดของเขา เขาเป็นส่วนสำคัญในการนำ อินเตอร์ คว้าแชมป์ เซเรีย อา (Serie A) ในฤดูกาล 2020-21 ซึ่งเป็นสกูเดตโต้ (Scudetto) แรกของสโมสรในรอบ 11 ปี ตามด้วยการคว้าแชมป์ โคปปา อิตาเลีย (Coppa Italia) และ ซูเปอร์คอปปา อิตาเลียนา (Supercoppa Italiana) ในฤดูกาลต่อๆ มา ในฤดูกาล 2022-23 เขานำ อินเตอร์ เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2010 แม้จะพ่ายแพ้ต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ เลาตาโร ก็ได้แสดงให้เห็นว่าเขาสามารถเล่นในระดับสูงสุดของฟุตบอลยุโรปได้ “เมื่อคุณสวมเสื้อ อินเตอร์ คุณต้องคิดถึงชัยชนะเสมอ” มาร์ติเนซ กล่าว “ประวัติศาสตร์ของสโมสรนี้ทำให้เราต้องแข่งขันเพื่อทุกรายการ และผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งนี้” ความสำเร็จของ เลาตาโร ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในระดับสโมสร เขาเป็นส่วนสำคัญของทีมชาติ อาร์เจนตินา ที่คว้าแชมป์ โคปา อเมริกา ในปี 2021 และ 2024 รวมถึงการคว้าแชมป์ ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ (FIFA World Cup) ในปี 2022 ในการแข่งขัน โคปา อเมริกา 2024 เขาคว้ารางวัลรองเท้าทองคำด้วยการยิง 5 ประตู เป็นการยืนยันถึงความสามารถในการทำประตูของเขาในระดับนานาชาติ การเล่นร่วมกับ เมสซี ในทีมชาติได้ช่วยพัฒนาทักษะของเขาอย่างมาก “การได้เล่นร่วมกับ ลีโอ คือความฝันที่เป็นจริง” มาร์ติเนซ เผย “เขาคือแรงบันดาลใจของผมตั้งแต่เด็ก และตอนนี้เราเป็นเพื่อนร่วมทีมและเพื่อนกัน มันเป็นความรู้สึกที่น่าเหลือเชื่อ” ขณะที่ อินเตอร์ มิลาน เตรียมพบกับ บาร์เซโลนา ในรอบรองชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก เลาตาโร มาร์ติเนซ มีโอกาสที่จะเขียนบทใหม่ในประวัติศาสตร์ของเขาและสโมสร หากพวกเขาสามารถผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศและคว้าถ้วยรางวัลที่ต้องการมานาน มันจะเป็นการยืนยันถึงสถานะของเขาในฐานะหนึ่งในกองหน้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก “แชมเปี้ยนส์ ลีก คือความฝันของผม” มาร์ติเนซ ยอมรับ “มันเป็นรายการที่ทุกนักฟุตบอลอยากชนะ และผมเชื่อว่าเรามีทีมที่สามารถทำได้ เราได้เรียนรู้จากประสบการณ์ในรอบชิงชนะเลิศครั้งที่แล้ว และตอนนี้เราพร้อมที่จะก้าวไปอีกขั้น” ที่วัย 27 ปี เลาตาโร มาร์ติเนซ อยู่ในช่วงที่ดีที่สุดของอาชีพ เขาได้รับการยอมรับว่าเป็นกัปตันของ อินเตอร์ มิลาน และเป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญของทีมชาติ อาร์เจนตินา ด้วยฝีเท้าที่คงเส้นคงวาและนิสัยการทำงานหนัก เขามีโอกาสที่จะพัฒนาเป็นหนึ่งในตำนานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการฟุตบอล “เลาตาโร มีทุกอย่างที่จะกลายเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์”  “อินเตอร์ คือบ้านของผม และผมมีความสุขมากที่นี่” เขากล่าว “ผมต้องการสร้างประวัติศาสตร์กับสโมสรนี้และคว้าถ้วยรางวัลมากขึ้น เรามีโครงการที่น่าตื่นเต้น และผมต้องการเป็นส่วนหนึ่งของมัน” ไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ เลาตาโร มาร์ติเนซ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลก ด้วยความสามารถในการทำประตูที่ยอดเยี่ยม ความเป็นผู้นำ และความทุ่มเททั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ เขาสมควรได้รับการยอมรับในระดับเดียวกับดาวเตะชั้นนำอื่นๆ ของโลก เมื่อเขาก้าวออกสู่สนาม คัมป์ นู ในวันพุธนี้ เลาตาโร จะไม่เพียงมุ่งมั่นที่จะนำ อินเตอร์ สู่ชัยชนะ แต่ยังเพื่อแสดงให้โลกเห็นว่าเขาคือหนึ่งในกองหน้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนี้ – ตำนานที่แท้จริงของ อินเตอร์ มิลาน ที่กำลังพิชิตโลก

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Related Posts